ยศวริศ ชูกล่อม หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ
เจ๋ง ดอกจิก แนวร่วมคนสำคัญของ
แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนักแสดงตลก เกิดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2501 ที่
จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีชื่อเดิมว่า
ประมวล ชูกล่อม จบการศึกษาระดับปริญญาโทจาก
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) อดีตผู้ช่วยเลขานุการ นาย
ฐานิสร์ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เคยทำงานที่ทำการไปรษณีย์ย่าน
สามแยกไฟฉายในเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร จากนั้นผันตัวเองไปเป็นนักแสดงตลกในค่าเฟ่ และหลังจากนั้นได้เข้าสู่แวดวงการเมืองซึ่งเป็นสิ่งที่ชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก ด้วยการเป็นคนสนิทของทีมงานรัฐมนตรีใน
คณะรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา และ
รัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และเคยเข้าแข่งขันรายการ
แฟนพันธุ์แท้ ตอน การเมืองไทย ด้วย
[1][2]ใน
การเลือกตั้ง ปี พ.ศ. 2548 มีความพยายามจะลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในสังกัด
พรรคไทยรักไทย (ทรท.) ที่เขต 4 จังหวัดสุราษฎร์ธานี บ้านเกิดของตัวเอง แต่ไม่ถูกเลือก จึงย้ายไปสังกัด
พรรคชาติไทย (ชท.) แทน แต่ก็ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ต่อมาใน
การเลือกตั้ง ปี พ.ศ. 2550 ก็ลงสมัครเลือกตั้งอีกครั้งที่
จังหวัดนนทบุรี สังกัด
พรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) ก็ไม่ได้รับเลือกตั้งอีก
[1]ใน
คดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาว่าจ้าง ผู้สมัครให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรคการเมืองขนาดเล็กที่จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหลักฐานหนึ่งนำไปสู่คดียุบพรรคไทยรักไทยในที่สุด
[1]ใน
เหตุการณ์มหาอุทกภัย พ.ศ. 2554 ตกเป็นข่าวว่าเป็นผู้ยึดเรือบริจาคและทำกิริยาไม่เหมาะสมต่อ
สื่อมวลชนถึงศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลืออุทกภัย (ศปภ.) จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว
[3]ในกลางปี พ.ศ. 2555 ถูกตัดสินจำคุกจากการยื่นฟ้องของนาย
นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จากการเปิดเผยเบอร์โทรศัพท์และชื่อที่อยู่ของ
ศาลรัฐธรรมนูญ ในที่ชุมนุม ซึ่งผิดเงื่อนไขของการปล่อยตัวจากคดีการชุมนุมเมื่อปี พ.ศ. 2553 แต่ได้ถูกประกันตัวออกมาจากการยื่นขอของ
กรุณา มอริส ภรรยาที่เป็นนักแสดง ด้วยหลักทรัพย์เป็นเงินสด 600,000 บาท
[4][5]ในวันที่ 6 ธันวาคม 2559 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่ง ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 ปี นับแต่วันที่ 30 มิ.ย.2556 ซึ่งเป็นวันพ้นจากตำแหน่ง กรณีแจ้งทรัพย์สินล่าช้า โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี ปรับ 4000 บาท
[6]วันที่ 7 มีนาคม 2560 ศาลฎีกา ตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา ในคดีหมิ่นประมาทสถาบันพระมหากษัตริย์
[7]